บอกเล่าของดี ฝึกงานที่ Pronto tools
“ฝึกงานที่ไหนดีน้า..?”
“เราจะได้ไปที่ๆ ให้เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำไหมหนอ..?”
“ที่ไหน ที่มีสภาพแวดล้อมแสนอบอุ่นและเป็นกันเองบ้างนะ..?”
คำถามที่เราครุ่นคิดและความคาดหวังเมื่อขึ้นปี 3 (หรือบางคนปี 1–2 หืม!!)
“ไม่เอาชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร หรือยกแต่ของนะ อยากทำงานจริงๆ ขอร้องงงงงงง”
นี่คือความกลัว (หรือความชอบบางคน ฮ่าๆ) ของใครหลายคน รวมถึงผมด้วยเช่นกัน วันนี้ผมจึงตั้งใจจะบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่พบเจอกับบริษัทแห่งหนึ่ง ให้น้องๆ หรือใครก็ตาม ที่กำลังมองหาบริษัทดีๆ สักแห่งหนึ่งที่จะได้ทำงาน (ฝึกงาน) กันเนอะ
แท่น แทน แท๊นนน…
Pronto tools นี่เอง!!
ผมคงให้คุณหยุดคิดไม่ได้สินะ ว่านี่ไม่ใช่บริษัทขายกางเกงยีน หึหึ ก็มันไม่ใช่!!!!! มีรุ่นพี่คนนึงพูดขึ้นมาว่า เดี๋ยวก็ขายมันซะจริงๆเลยหนิ จะได้ไม่ต้องตอบคำถามขยายความมากมาย ผมนี่ขำแตกเลยครับ ฮ่าๆ
งั้นมาทำความรู้จักกันคร่าวๆหน่อยเนอะ ว่าจริงๆเราทำไรกันบ้าง
เริ่มจาก…
Pronto Marketing จัดการให้บริการเกี่ยวกับ Internet Presence Management หรือการทำให้มีตัวตนบนโลกออนไลน์ ซึ่งบริการของเรานั้นมีหลายอย่าง เช่น Posting blog, Sending out email Newsletter, Optimize SEO บลาๆ ทำให้กับบริษัทที่เป็นพวก SMEs ตั้งแต่ออกแบบ สร้าง และดูแลเว็บไซต์ เรียกได้ว่าครบวงจรกันเลยทีเดียว
และเนื่องจากบริษัทมีการขยายตัว มีโปรเจคที่เพิ่มขึ้นมากมาย จึงได้คิดสร้างบริษัทใหม่ขึ้นมาโดยที่จะเน้นไปทาง software เป็นหลักไปเลย นั่นก็คือ..
Pronto Tools สถานที่ๆผมได้มาฝึกงานนั่นเอง เราจะมุ่งเน้นพัฒนา software ใหม่ๆ กัน ซึ่งจริงๆทีมเราก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Pronto Marketing อยู่นั่นแหละ มีโปรเจคมากมายที่ทำกัน อย่างเช่น SimpleSat, Data Swarm, iPhoenix เป็นต้น เดี๋ยวจะมาต่อกันว่าผมทำอะไรบ้าง ก่อนอื่นขอย้อนนิดนึงไปตอนแรกที่มายัง Pronto Tools ก่อนนั่นคือตอนสัมภาษณ์
ก่อนอื่นผมรู้จักที่นี่เพราะพี่ๆ ที่มหาลัย (ทำงาน Pronto tools นี่แหละ ฮ่าๆ) เล่าและแนะนำให้ฟังว่าดี และผมก็ไปหาอ่านตามบล็อกก็พบว่า Pronto tools นี่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยแฮะ ได้ยินว่ามีคนเก่งๆทำอยู่เยอะ และได้ยินว่าเขามีโครงการสนับสนุนผู้หญิงให้เป็น Developer ด้วยเข้าทางสิครับ อิอิ และที่สำคัญของกินเพียบ!!
บอกตรงๆเลยนะครับ ผมเลือกที่นี่ที่เดียว และไม่ได้สมัครที่ไหนเลย (อวดหน่อยๆ ฮ่าๆ) เข้ามาบริษัทก็ชอบสถานที่แล้วงานตกแต่งอาคารสวยงามมาก ก่อนเข้าสัมภาษณ์เจอแก๊งสาวๆ กลุ่มหนึ่งยิ้มทักทายให้ เป็นมิตรมากๆ น่ารักด้วย เขิลเลยครับ เสร็จแล้วเดินไปแถวๆในครัว ผมเจอพี่คนหนึ่ง ผมถามพี่เขาว่า มีไรให้กินไหมครับ พี่เขาก็หาไรให้กิน โอ้ดีจริง พอรอสักพักก็ได้เข้าสัมภาษณ์ ซึ่งเจอหน้าพี่ๆ ครั้งแรกก็แบบ เกร็งๆแหละ คือเราไม่เคยไปสัมภาษณ์ที่ไหนมาก่อนไง แต่เตรียมสคริป ท่องหน้ากระจกมาอย่างดิบดี (แล้วก็พูดไม่ครบฮ่าๆ) แต่พอได้คุยกันก็รู้สึกผ่อนคลายลงมาก พี่ๆเป็นกันเองสุดๆ สบายๆ แต่งตัวกันอย่างกะอยู่บ้าน บรรยากาศเฮฮา หลังจากขายของแล้ว ก็กลับบ้าน
และนาทีที่ดีใจสุดๆ ก็มาถึง อย่างกะเอ็นติด (รู้สึกอย่างงี้เลยครับ) คือพี่เขาโทรมาบอกว่าเราได้เข้าฝึกงาน โอ้วโน่ ดีใจร้องลั่นใส่พี่คามือถือเลย พี่เขาน่าจะจำได้นะฮ่าๆ
ก่อนวันที่จะเข้าฝึกงาน ผมมาส่งเอกสารก่อน ถือเป็นการมาเดินเล่นทักทายพี่ๆ และวันนั้นโชคดีมากๆเลยครับ เพราะว่าพี่เขาทำแซลม่อนกันกินพอดี เลยได้กินด้วยเลย (นี่ก็จะกินอย่างเดียว ฮ่าๆ) อยากกินบ้างล่ะสิ เดี๋ยวมีอีกเพียบ!!
iPhoenix
เป็นทีมที่ผมได้เข้ามาและเป็นโปรเจคที่ได้ทำกับพี่ๆและเพื่อน ผมสมัครตำแหน่ง Software engineer ซึ่งได้ทำพวก backend และยังได้รู้พวก infrastucture บ้างอีกด้วย ซึ่งโปรเจคเรานี้เป็น tools ที่ช่วยให้การดูแลจัดการ WordPress ของลูกค้าสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง site, ทำ domain mapping, กำหนด rule ของ redirection, ทำ ssl, จัดการ theme กับ plugin และอีกมากมายที่ในอนาคตจะพัฒนาขึ้น เจ๋งไหมละครับ
และสิ่งที่คุณจะได้เจอหลักๆในทาง technical เมื่อมาทำในทีมเรา
- Python (django) ขาดไม่ได้เลยครับ เขียนภาษานี้แทบจะ 100 % เลยก็ว่าได้ (ในอนาคตเราอาจใช้ React ทำ front-end เก๋ๆด้วยแหละ) ปล. หากน้องๆที่อยากทำด้านนี้ พี่ก็แนะนำให้ ศึกษา Python กันมาด้วยนะค้าบบ
- Docker เราไม่ต้องมานั่งกังวลกันเลยว่าหากเครื่องเราลงโปรแกรมเวอร์ชั่นหนึ่ง แต่บนเครื่อง server เราลงอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง (environment ต่างกันนั่นเอง) ซึ่งเจ้า docker เนี่ยจะจัดการแพค application ของเราเป็น container ซึ่งเราก็เอามันไปรันที่เครื่องไหนก็ได้ ชิคๆ คูลๆ ไหมล่ะ
- Unit Testing ที่นี่พวกเราเน้นเรื่องนี้มากเลยนะ พวกเราเขียน test คลุมโค้ดตลอด ซึ่งในการทำคือ เราเขียน Test Case ในสิ่งที่เราต้องการแล้วรัน เกิด error อย่างไรก็แก้ไป แล้วก็มาเขียน test เพิ่มใน case ต่อๆไป ค่อยๆทำอย่างนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ จนครบ case ตามที่เราต้องการ หากเราเขียนครอบคลุมพอ ถ้าในอนาคตเราอยากจะมาแก้โค้ดเนี่ย ก็สะดวกสบาย เพราะแก้ไรไป พอเรารัน test มันก็ฟ้องแล้วว่าเราทำไรลงไป ทั้งหมดเนี่ยเราเรียกว่า การทำ Test-driven development (TDD)
- Git เป็นที่รู้กันว่าเจ้า version control ตัวนี้เนี่ย มันมีประโยชน์ขนาดไหน ขาดไม่ได้แน่นอนจ้า
และมีอีกหลายอย่างที่ผมได้เรียนรู้จากที่พี่ๆจัดสอน คือถ้าพี่ๆคนไหนว่าง จะมีการแชร์ knowledge กันด้วยนะ คือเตรียมเนื้อหามาสอน มาแชร์กัน ในช่วงแรกๆที่พี่มาสอนก็ เช่น django, git, docker, css/html, javascript+ES6 และ unittest ช่วงหลังๆที่ได้จับงานจริงๆแล้ว ก็ยังมีอีกนะ อย่าง software testing, Airflow และก็ React อีกด้วย ความรู้เต็มไปหมดเลย ฮ่าๆ
เข้ามาตอนแรก มันก็มีหลายอย่างที่งงๆอะเนอะ อย่างผมเนี่ยมือใหม่หลายอย่างเลย พี่เขาก็มีการให้เราไปนั่งเขียนโค้ดด้วยกัน อาจจะให้เรานั่งดู อธิบายให้เราฟัง หรือให้เราลองเขียนแล้วพี่เป็นคนไกด์ให้ ไอแบบนี้เราเรียกว่า Pair programming ซึ่งช่วยให้เราได้เข้าใจงานที่พี่เขาทำพร้อมกับสอนไปในตัวเลยทีเดียวอีกด้วย
ในตอนเช้าๆ เรามีสิ่งที่เรียกว่า kata คือการเขียนโค้ดเดิมๆ ซ้ำๆทุกๆวัน เราจะได้เขียนคล่องๆไง
Culture
ที่นี่เรามีวัฒนธรรมแบบ Agile กัน โดยเราหยิบวิธีแบบ Scrum มาใช้ แน่นอนเรามี product owner (PO) มานั่งอยู่ในห้องเดียวกันนี่แหละ!!
ระยะเวลางานที่เราทำเรียกว่า sprint โดย 1 sprint ของเราเนี่ยเท่ากับ 2 อาทิตย์ และเราจะกำหนดเป้าหมายของงานกันว่าใน 1 sprint เนี่ย เราจะทำกันแค่ไหน ก็ทำกันไปเท่านั้น เป็น sprint วนไปเรื่อยๆ
ซึ่งในหนึ่ง sprint เนี่ย เราจะมี…
- Sprint planning คือในวันจันทร์หรือวันแรกของ sprint เราจะวางแผนกันว่าจะทำอะไรใน sprint นี้กันบ้างแล้วก็บอกรายละเอียดให้ PO ฟัง ซึ่งเขาก็นั่ง planning กับเรานี่แหละ งานแต่ละงานย่อยๆที่เราคุยกันจะเขียนเป็นการ์ด ซึ่ง PO จะเป็นคนเลือกว่าจะให้ทำการ์ดไหนบ้าง เราจะมีบอร์ดแสดงความคลืบหน้าของงานเราซึ่ง PO จะหยิบการ์ดที่เลือกแล้วไปไว้ในส่วนที่เรียกว่า Backlog พอเราจะทำการ์ดไหน เราก็หยิบไปไว้ในส่วน Doing พองานเสร็จปุ้บ เราก็หยิบไปไว้ในส่วยของ PR ซึ่งคือการเปิด pull request ขึ้นบน github เพื่อให้คนอื่นในทีม มาช่วยกันรีวิวโค้ดก่อน พอเรียบแล้วเราก็ Deployed งานของเรา และสุดท้ายก็ไปไว้ในส่วน Done นั่นเอง
- Stand-up meeting ในตอนเช้า 10.00 น. ของทุกๆวัน เราจะมายืนรวมตัวล้อมวงกันเพื่อที่จะบอกว่า เมื่อวานเราได้ทำอะไรบ้าง เจอปัญหาอะไรบ้าง แล้ววันนี้จะทำอะไรต่อไป
- Sprint review ในวันศุกร์ของอาทิตย์แรก เราจะมาคุยกันถึงความคืบหน้าว่า เราทำอะไรไปกันแล้วบ้าง เหลืออะไรบ้างที่ต้องทำ
- Refinement ในวันจันทร์สัปดาห์ที่สองของ sprint เราจะมาคุยกันอย่างคร่าวๆถึง งานใน sprint หน้า เพื่อให้เราลงรายละเอียดตอน planning ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นใน sprint ถัดไปนั่นเอง
- Retrospective วันศุกร์หรือวันสุดท้ายของ sprint เราจะมาคุยกันถึงความรู้สึกใน sprint นี้ว่ารู้สึกดี หรือไม่ดีอย่างไร มีไรต้องแก้ไขหรือไม่ มีปัญหาอะไรกันบ้าง ซึ่งแต่ละคนจะได้พูดของตัวเองกันทุกคน แล้วเราก็มากำหนดเป้าหมาย (Goal) กันว่าเราจะมีแนวทางปฎิบัติอย่างไรบ้างเพื่อช่วยให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น และมีความสุขขึ้นด้วย
ในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เราเน้น self-management นะ หากมีธุระจำเป็นต้องเข้าสาย จะเข้าบ่าย หรือลาไปไหนก็ขอให้บอกกันเนอะ อยากจะมาเช้าแล้วกลับเร็ว หรือมาช้าหน่อยแล้วกลับช้าก็ได้ หรืออยากจะทำงานให้เสร็จเร็วๆ ให้จบก่อนครบ sprint ก็ได้ แต่ก็ห่วงสุขภาพตัวเองกันด้วยเน่อ
เราจะแต่งตัวยังไงก็ได้ อยากจัดเต็มก็จัดมา อยากสบายๆก็ได้ ชิลมาก แต่ไม่เอาชุดนักศึกษา หรือชุดพนักงานออฟฟิตนะ เขาไม่ได้ห้ามหรอก แต่มันจะแปลกไง ไม่มีใครเขาใส่กัน ฮ่าๆ
บริษัทเราได้มีการจัดแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรกับบริษัทขายดีด้วย มีพาเรด มีเชียร์ลีดเดอร์ อลังสุดๆ โดยเฉพาะเชียร์ลีดเดอร์เนี่ยทำผมลืมดูบอลเลย 5555 ปล.ไม่ได้เอารูปทีมเชียร์ลีดเดอร์บริษัทขายดีมานะ อดดูนะครับ อิอิ
งาน Code mania 101 ที่ผ่านบริษัทเราเป็นส่วนหนึ่งของสปอนเซอร์ ผมก็มีโอกาสได้ไปร่วมงานด้วยนะ จากการได้บัตรฟรี พร้อมเสื้อตัวนึงด้วย แจ่มๆเลย มีพี่ๆจากบริษัทเรานี่แหละ ไปเป็น speaker พูดให้ความรู้ในงานอยู่หลายคนเลยนะ สุดยอดเลยป่ะล่ะ
ช่วงว่าง ช่วงพัก มีไรให้เราทำกันบ้าง
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หลายคนที่เป็นเพื่อนใน facebook จะเห็นผมโดน tag มากมาย และที่เยอะสุดก็ไม่พ้น การกิน จนเพื่อนหลายคนบอกผมว่า
“Pronto นี่เลี้ยงดีจริงๆเล้ย”
คุณมาถูกทางแล้วครับที่นี่ของกินเพียบ!!
เรามาดูกันว่าเวลาว่างเราทำอะไรกันได้บ้างเอ่ย
- กาแฟ เป็นประจำตอนเช้าที่ผมมาถึงต้องเดินมาชง (นี่ไงได้ชงกาแฟจริงๆแล้ว ฮ่าๆ) รับเช้าวันใหม่ของทุกวัน ก็ต้องซัดกันซักหน่อย
- ขนมปัง สลัด และผลไม้ ในตอนเช้าๆ ไม่ได้กินอะไรมา มาจัดขนมปังหรือ สลัดซักหน่อย ก็อยู่ท้องแล้ว (อิ่มเลยแหละฮ่าๆ) ช่วงบ่ายประมาณบ่ายสามก็มี ผลไม้ตั้งบนโต๊ะเต็มไปหมดเลย ให้พวกเราเดินมาหยิบกันได้ตามอัธยาศัยอีกด้วย เรียกได้ว่าครบ 5 หมู่กันเลยทีเดียว
- ตู้เย็น หิวน้ำก็ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหนไกลหรอกครับ เรามีตู้เย็นใส่น้ำ อย่างกะขายตามร้านสะดวกซื้อเลยครับ กระหายเมื่อไหร่ก็แวะมา…
- ปลาดิบ!!! บางครั้งเราก็สั่งซื้อปลาเป็นตัวๆมาแล่ กินกันเองเลยครับ เรามีผู้เชี่ยวชาญการแล่โดยเฉพาะครับ โค้ดได้แล่ปลาเป็น สุดยอดไปเลย
- พักกลางวันเราไปกินข้าวด้วยกันนะรู้เปล่า ถึงตอนกลางวันเราก็มีคำถามกันว่า “กินไรกันดีเอ่ย?” ตกลงกันได้ปุ๊ป เราก็ออกไปกินข้างนอกกันหรือบางครั้งก็สั่งมากินที่บริษัทนี่แหละ ข้างนอกก็มีหลายร้านแถวๆนั้น ที่ขึ้นชื่อด้วยนะ อร่อยๆเยอะเลย
- เล่น Pool หรือ Ping Pong ที่นี่เรามีโต๊ะ pool ด้วยนะครับ เรามีการแข่งขันกันด้วยแหละ คนเทพๆเยอะเลย อยากเล่นก็ไปขอพี่ๆเขาเล่นด้วยได้เลย หรือชอบตีปิงปอง ก็กางโต๊ะหาเพื่อนเล่นได้เลยมีโต๊ะพร้อมจ้า
- งีบ บางทีมันก็เพิ่งกินอิ่มๆอะเนอะ พักซักแปป ค่อยมาทำงานต่อดีกว่า
- E-sport เรามีเกมเพล เอ็กบล๊อค ให้เล่นกันด้วยนะ หรือไม่บางทีว่างๆ พี่ๆเขาก็ชวนเล่น ROV ด้วยกันก็ไปจอยได้เลย (ส่วนผมได้แต่มองคนหัวร้อน ฮ่าๆ)
- Board game เรามีบอร์ดเกมสนุกๆให้เล่นหลายเกมเลยนะ สนุกมากกกก
สุดท้ายนี้…
ผมต้องออกตัวก่อนเลย ว่าผมค่อนข้างมือใหม่ด้านนี้ ผมไม่ค่อยเก่งซักเท่าไหร่นัก แต่ได้เจอพี่ๆที่เก่งๆหลายคน แล้วแบบเป็นแรงบรรดาลใจอย่างมาก ให้เราพัฒนาตัวเองอย่างจริงจังเสียที ผมโชคดีมากเลยที่ได้มาฝึกที่นี่ มีพี่เก่งๆสอนเราในสิ่งที่เราไม่รู้ ได้จับงานจริงๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองมีความรับผิดชอบขึ้นมากเลย นอกจากงานที่ได้ความรู้แบบมหาศาลแล้ว พี่ๆยังใจดี เฮฮา แบบมุขห้าบาทสิบบาท ก็เล่นมันทุกวัน ฮ่าๆ สร้างสีสันให้กันทุกวันเลย ผมไม่คิดเลยว่าเข้ามาจะเจอบรรยากาศที่เป็นกันเองขนาดนี้ สนุกมากเลยครับ (ปรบมือ แปะๆๆ)
หลายคนคงเห็นเด็กฝึกงานบ่นกันบ่อยๆบนเฟสบุ้คบ้างตัวจริงบ้างว่า “เมื่อไหร่จะวันศุกร์ ขอวาร์ปไปวันศุกร์เลยได้ไหม” แต่รู้ไหมครับ ไม่ว่าผมหรือเพื่อนๆที่ฝึกงาน ต่างพูดเหมือนกันว่า
“อ้าววันศุกร์แล้วหรอ เร็วจัง!”
เข้าใจความหมายป่ะครับ เราสนุก เราเพลิดเพลิน เรามีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ยังไงล่ะ มันถึงได้ผ่านไปเร็วขนาดนี้ และไม่ทันไรก็ต้องจากกันเสียแล้ว ฮรืออ
แต่… ตัวผมนั้นยังอยู่ต่อนะ ผมไม่ได้แค่ฝึกงานอย่างเดียว ผมตัดสินใจทำสหกิจที่นี่ต่อแบบไม่ลังเลกันเลย เพราะว่าแค่สองเดือนมันไม่พอสำหรับผมจริงๆครับ อยู่กันยาวไป ยาวไป แฮ่ๆ
“หากยังไม่มีที่ไป ขอแค่มีใจก็ลองมาสมัครรู้จักกันดูนะครับ”
หวังว่าจะทำให้น้องๆ ได้สนใจใน Pronto tools มากขึ้นนะครับผม :)
